ความรู้ … คู่ครัว

การเลือก ตู้ครอบเตาอบ

สำหรับห้องครัวที่ไม่ได้ได้มีเคาน์เตอร์แบบบิ้วท์อิน แต่สนใจเตาอบไฟฟ้าเข้าไปใช้ในห้องครัวซึ่งถ้าจะเอาไปวางไว้เปลือยๆคงดูไม่เหมาะสมแน่ๆ จึงสมควรที่ต้องมี ตู้ครอบเตาอบ หรือบางคนอาจจะเรียยกว่าตู้ใส่เตาอบ, ตู้ใส่เตาอบแบบบิ้วท์อิน

     เพื่อจะทำให้มีความสวยงามเรียบร้อย, ความคงทนของเตาอบ และความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งคิทเช่นฟอร์มจะมาแนะนำวิธีการเลือก ตู้ครอบเตาอบ อย่างไรเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด

1. ตู้ครอบเตาอบ ควรมีสีโทนเดียวกับห้องครัวและเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัว เพื่อให้เกิดความสวยงามและโทนสีไม่ตัดกันเกินไปนัก

2. การประกอบตู้ต้องเป็นแบบยึดติดด้วยเกลียวปล่อย ไม่ใช่ประกอบแบบน็อคดาวน์ เพราะว่าน้ำหนักเตาอบกับสิ่งของที่ใช้อบมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ถ้าเป็นตู้ที่ประกอบแบบน็อคดาวน์จะทำให้โครงสร้างช่วงบริเวณรอยต่อปริแตกง่าย

3. แผ่นไม้ที่นำมาประกอบตู้ครอบเตาอบ ต้องมีความหนา 19 mm. ซึ่งจะเป็นขนาดที่สามารถรองรับน้ำหนักเตาอบได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้โครงสร้างแอ่นและโค้งงอ

4. เนื่องจากตู้ครอบเตาอบ ต้องมีการใช้งานเกี่ยวกับการประกอบอาหารอยู่เป็นประจำ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคราบสกปรกต่างๆ มาติด ตู้ครอบเตาอบ ที่ดีจึงต้องเคลือบด้วย MELAMINE ซึ่งจะช่วยกันน้ำได้เป็นอย่างดี ทนทานต่อการขีดข่วน, กรดด่าง, ความร้อน, ความชื้น และสามารถเช็ดคราบสกปรกต่างๆออกได้อย่างง่ายดาย

5. ต้องติดตั้งง่ายสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องใช้ช่าง

6. ความสูงของตู้ครอบเตาอบ ควรมีขนาดที่ได้มาตรฐานคือ 85 cm. เพื่อให้เกิดความสวยงามซึ่งถือเป็นขนาดความสูงเดียวกันกับเคาน์เตอร์แบบบิ้วท์อินทั่วไป และมาตรฐานความสูงนี้เหมาะกับสรีระการใช้งานของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

7. อุปกรณ์ฟิตติ้ง (มือจับและรางเลื่อนลิ้นชัก) ต้องใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน เพื่อจะช่วยให้ระบบลิ้นชักมีความแข็งแรง คงทน ไม่แอ่น ไม่โค้งงอ และทำให้การเลื่อนเข้า-ออกมีความไหลลื่น

ทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมาถือเป็นการเลือกซื้อ ตู้ครอบเตาอบอย่างถูกวิธี ซึ่งจะทำช่วยเพิ่มความสวยงามให้ห้องครัว, ช่วยรักษาสภาพเตาอบไฟฟ้าให้มีความคงทน และทำให้การประกอบอาหารเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย