ประเภท เครื่องดูดควัน
เครื่องดูดควัน หนึ่งในเครื่องมือที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการประกอบอาหารของคนยุคใหม่ที่มีลักษณะความเป็นอยู่ที่หนาแน่นและแออัดมากขึ้น กลิ่นของการประกอบอาหารจึงเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ทั้งคนในบ้านและคนรอบบ้าน ทำให้เครื่องดูดควันถูกผลิตคิดค้นขึ้นมา เครื่องดูดควันจากการประกอบอาหาร หน้าที่หลักของมันก็คือ ดูดอากาศจากบริเวณที่ต้องการให้มีการระบายอากาศภายในบ้านออกสู่ภายนอก ซึ่งในที่นี้ก็คือห้องครัว ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องดูดควันจากเทคโนโลยีใหม่ๆที่เราได้ค้นพบกันมากขึ้นตามยุคสมัย เครื่องดูดควันในปัจจุบันจึงมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก และยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงามน่าใช้อีกด้วย ประเภท เครื่องดูดควัน ซึ่งทางคิทเช่นฟอร์มมีจัดจำหน่ายแบ่งออกเป็น
- ISLAND HOOD ซึ่งจะใช้ในห้องที่มีพื้นที่มากๆและมีเตาสำหรับทำอาหารอยู่ตรงกลางห้อง เช่น ห้องครัวของโรงแรมต่างๆ เป็นเครื่องดูดควันที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาจึงสูงตามไปด้วย
- CHIMNEY HOOD แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าคล้ายเตาผิง ดังนั้นเครื่องดูดควันแบบนี้จะต้องติดผนัง มีประสิทธิภาพเทียบเท่า ISLAND HOOD แต่ใช้กับห้องครัวขนาดเล็กและมีเตาอยู่ติดผนังห้อง CHIMNEY HOOD จึงถูกนำมาใช้งานในบ้านเป็นส่วนใหญ่
- SLIMLINE HOOD เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถติดตั้งท่อดูดควันออกไปนอกบ้านได้ จึงพบได้ตามคอนโดหรืออพาร์ทเม้น และมีประสิทธิภาพน้อยกว่า 2 แบบแรกเล็กน้อย
- DOWNDRAFT HOOD มีประสิทธิภาพเท่าๆ 2 แบบแรก แต่มีการออกแบบมาให้กลมกลืนไปกับอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ
หลังจากทำความรู้จักกับชนิดของเครื่องดูดควัน เราลองมาทำความเข้าใจกับการเลือกซื้อเครื่องดูดควันมาใช้ในห้องครัวของเรา สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือ
- ขนาดของเครื่องดูดควัน ซึ่งจะเป็นไปตามขนาดของเครื่องครัวของเรานั่นเอง หากมีขนาดใหญ่ ก็ต้องใช้เครื่องดูดควันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั่นเอง
- กำลังดูดอากาศ ซึ่งจะเป็นไปตามการใช้งานและขนาดของเครื่องครัวของเรานั่นเอง หากมีการใช้งานมาก ก็ต้องใช้เครื่องดูดควันที่มีแรงดูดมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งจะคำนวณจากกำลังดูดอากาศที่เหมาะสม = ปริมาตรของห้องครัว (กว้าง x ยาว x สูง) x 10 หน่วยเป็นลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
- ชนิดของมอเตอร์ภายในเครื่องดูดควัน ซึ่งมี 3 แบบด้วยกันคือ แบบที่ทำจากอัลลอยด์จะทนความร้อนได้ดีใช้งานได้นาน แบบที่ทำจากเหล็กชุบทำงานได้ไม่ต่อเนื่องเท่าแบบแรกแต่เด่นในเรื่องที่ไม่เป็นสนิม และแบบที่ทำจากพลาสติกกิลล่อนทนความร้อนได้ระดับหนึ่งจึงไม่เหมาะกับงานที่ใช้แบบต่อเนื่องนานๆ
- วัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตตัวเครื่อง ปกติก็จะใช้สแตนเลส AISI304 เพราะมีความทนทาน ใช้งานได้นานและไม่เป็นสนิม
- การดีไซน์ แล้วแต่ความชอบรายบุคคล
- ตัวกรองอากาศจะใช้ตัวกรองแบบคาร์บอน เพื่อดูดซับกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร
- ตัวกรองน้ำมัน
และอีกเรื่องที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องดูดควันในปัจจุบันก็คือ ระดับเสียงรบกวนจากการใช้งานเครื่องดูดควัน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจาการทำงานของมอเตอร์ตัวดูดอากาศ หน่วยวัดระดับเสียงที่เราใช้เทียบก็คือเดซิเบล ซึ่งปกติแล้วเครื่องดูดควันที่ผลิตมาในรุ่นหลังๆจะมีระดับเสียงรบกวนที่น้อยลงแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 80 เดซิเบลที่เป็นระดับที่ถือว่าปลอดภัยสำหรับหูของเรา แต่ปัจจุบันนี้ระดับของเสียงของเครื่องดูดควันสามารถต่ำได้ถึง 40 เดซิเบลจากการให้ข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดูดควัน
และด้วยความต้องการให้ลูกค้าของคิทเช่นฟอร์มได้สิ่งที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัยในการใช้งาน คิทเช่นฟอร์มจึงได้เลือกสรรและเลือกจำหน่ายเฉพาะเครื่องดูดควันที่มีคุณภาพเท่านั้น มีหลากหลายแบรนด์ได้แก่ ELBA, Eletrolux, EVE, FRENKE, HAFELE, Lucky Flame, MEX, Rinnai, SIEMENS, Smeg, Tecnogas และ Teka โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสวยงามในคราวเดียวกัน ดังนั้นถ้าคิดจะซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำอาหารใดเพื่อใช้ในงานครัวของคุณ คิทเช่นฟอร์มอาจจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยชื่อเสียงและการยอมรับของคิทเช่นฟอร์มในวงกว้างถึงคุณภาพที่ดีของเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำอาหาร นอกจากนี้บริษัทคิทเช่นฟอร์ม อินเตอร์เทรด จำกัดยังให้ความสำคัญเรื่องการบริการทั้งระหว่างการขายและหลังการขาย และกำหนดราคาขายที่เหมาะสมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยบริการส่งสินค้าทุกชิ้นฟรีทั่วประเทศไทย รับประกันว่าคุณสั่งสินค้าวันนี้ทางคิทเช่นฟอร์มจะส่งสินค้าพรุ่งนี้ทันที ไม่จำเป็นต้องวางเงินประกันด้วยระบบเก็บเงินปลายทางนั่นเอง