08
Jun

หน้าท็อปคิทเช่นฟอร์ม

หน้าท็อปคิทเช่นฟอร์ม

    หน้าท็อปคิทเช่นฟอร์ม หน้าท็อปเคาน์เตอร์ครัว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญสำหรับห้องครัวเลยก็ว่าได้ครับ โดยในปัจจุบันวัสดุของงานหน้าท็อปเคาน์เตอร์ครัวก็มีให้เลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หินแท้ หินเทียม หินสังเคราะห์ แกรนิต ซึ่ง หินในแต่ละประเภทก็จะมีความแข็งแกร่ง ความคงทน การทนทานต่อแรงกระแทกแตกต่างกัน รวมไปถึงการดูแลรักษาหรือแม้กระทั่งราคา  ฉะนั้น เราควรที่จะต้องใส่ใจในการเลือกหน้าท็อปให้เหมาะสมกับความต้องการ ไลฟ์สไตล์ของชุดครัว และ Budget  ของเรานั้นเองล่ะครับ

เอาล่ะครับ วันนี้เราจะมาพูดเกี่ยวกับประเภทของหินที่ทาง Kitchen Form ของเรานั้นได้เลือกใช้และคัดสรรมาเป็นอย่างดี จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันครับ

1.หินแกนิต (Granite)

 

     หินแกรนิต คือ หินธรรมชาติที่มีเนื้อหินภายในเป็นลักษณะหยาบๆ พรุนๆ เป็นหินที่เกิดขึ้นแทรกซ้อนกันตามธรรมชาติ เกิดการเรียงตัวของแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิด จึงเกิดเป็นลวดลายและสีที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่

     หินแกรนิตนั้น ถือว่าเป็นหินยอดนิยมเลยก็ว่าได้ครับเนื่องจากเป็นหินที่มีลวดลายที่สวยงาม ดูโดนเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อรอยขีดขวนได้เยียม อีกทั้ง ยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย และที่สำคัญมีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับหินประเภทอื่นๆ จึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย

     แต่ข้อเสียของหินแกรนิตนั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการซึมน้ำ เนื่องจากหินแกนิตนั้น เนื้อหินจะมีลักษณะเป็นรูพรุน ฉะนั้น การปล่อยให้มีน้ำหกใส่แล้วทิ้งไว้นานๆ หรือเกิดคราบสกปรกแล้วไม่เช็ดออกทันที ก็ดูจะเป็นการทำร้ายหิน เกิดข้อเสียต่างๆตามมาอย่างเช่น เกิดเชื้อโรค แบคทีเรีย ทำให้สีของหินดูหม่อง ทางที่ดีก่อนการติดตั้งเราควรเคลือบน้ำยาป้องเชื้อราเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ลายที่แนะนำ

 

2.หินสังเคราะห์ (Artificial Stone)

หน้าท็อป

     หินสังเคราะห์ เป็นหินประเภทหินทดแทนที่ผสมหินต่างๆเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หินแกรนิต หินควอตซ์ หินอ่อน โดยที่ใช้เรซิ่นเป็นตัวประสานหินทั้งหมดเข้าด้วยกัน จึงทำให้หินชนิดนี้มีความแข็งแรงกว่าหินธรรมชาติหรือหินแกรนิต

     โดยทั่วไป หินสังเคราะห์ชนิดนี้เป็นที่นิยมแซงหน้าหินธรรมชาติอย่างหินแกรนิตไปแล้ว เนื่องจาก หินสังเคราะห์นี้จะให้ในเรื่องของความแข็งแรงและทนทานมากกว่า ทนรอบขีดขวน และทนความร้อนได้ดีเหมือนกัน เพราะว่าหินสังเคราะห์จะไม่มีในเรื่องของรูพรุน สามารถทนความชื้น

     แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่นั้นก็คือ หินชนิดนี้จะไม่สามารถดัดโค้ง ได้หรือการปูหน้าท็อปที่ต้องแบ่งเป็นสองส่วนแล้วนำมาต่อกันก็จะทำให้เห็นรอยต่อได้ค่อนข้างที่จะชัดเจน แถมยังมีลวดลายให้เลือกได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังดีที่มีราคาสูงกว่าหินแกรนิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ 

ลายที่แนะนำ

 

3.หินอ่อน (Marble)

     หินอ่อน คือหินเนื้อละเอียดที่เกิดจากการตกผลึกตามธรรมชาติ เป็นการทับถมของชั้นแคลเซียมคาร์บอเนต(หินปูน) ที่ตกตะกอนสะสมอยู่ในทะเล จนกระทั่งเกิดการเคลื่อนไหวทางธรรมชาติ เกิดการยุบตัวสลับกับดันตัวขึ้น ทำให้พื้นที่อยู่ใต้ทะเลกลายเป็นพื้นพ้นน้ำและพื้นที่เรียกว่าบนบกกลับลงไปอยู่ใต้ทะเล ในสมัยนั้นจึงทำให้พื้นที่เคยอยู่ใต้ทะเลบางจุดเราอาจจะเห็นเป็นภูเขา หน้าผา กลายเป็นแหล่งหินอ่อนขนาดใหญ่

     ซึ่งเจ้าตัวหินอ่อนนี้จะมีส่วนผสมของแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นหลัก โดยอาจจะมีเศษหิน หรือเส้นคาร์บอน หรือแร่ธาตุอื่นๆ เจือปนอยู่นิดหน่อย ส่วนเนื้อหินอ่อนนั้นจะมีความเงางาม มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นสวยงาม มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวนับ 100 ปี ถ้าเราดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสม ตัวอย่างเช่น วิหาร Duomo Di Milano หรือมหาวิหารแห่งมิลาน ที่ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน สรรสร้างด้วยสถาปัตยกรรมหินอ่อนมีอายุยาวนานกว่า 600 ปี   

     โดยคุณสมบัติทั่วไปของเจ้าหินอ่อนนี้ จะไม่ทนต่อกรดด่าง ไม่ทนต่อรอยขีดข่วน บางชนิดก็ไม่สามารถที่จะโดนลมทะเลได้เพราะเนื่องจากไอเค็มจากน้ำทะเลจะกัดกร่อนผิวหินได้ ไม่สามารถทนต่อความร้อนจัดได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการนำไปทำในส่วนของเคาน์เตอร์บริเวณในส่วนของการประกอบอาหาร แต่จะเหมาะและเป็นที่นิยมมากสำหรับการนำมาทำในส่วนของโต๊ะไอส์แลนด์เพื่อตกแต่งให้ดูสวยงามและหรูหรา แต่อย่างไรก็ดี หินอ่อนก็จัดอยู่ในหินที่สวยเป็นอันดับต้นๆ แต่ก็แลกมากับราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียวละครับ

ลายที่แนะนำ

 

  1. 4.หินควอทซ์ (Quartz)

pantry room

     หินควอทซ์ เป็นหินเทียมที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่ง และทนทานมากกว่าเมื่อเทียบกับหินสังเคราะห์หรือหินธรรมชาติอย่างหินแกรนิต หินควอทซ์มีส่วนผสมของผลึกเทอร์ไบน์กว่า 93% และเรซิ่นโพลีเอสเตอร์ 7 % และเม็ดสี จึงทำให้เนื้อหินนั้นมีความหนาแน่นสูง มีน้ำหนักที่มาก แต่มีความแข็งแรงและทนทานเป็นอย่างมาก

     โดยคุณสมบัติของเจ้าหินควอทซ์นี้จะมีความทนทานแข็งแกร่งกว่าหินทั่วไปที่กล่าวมาข้างต้น สามารถทนความร้อนได้สูง ทนรอยขีดข่วน ยืดหยุ่นได้มากกว่าจึงสามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่าหินสังเคราะห์หรือหินแกรนิต เนื่องจากเนื้อหินมีความหนาแน่นสูงจึงไม่มีรูพรุนของเนื้อหิน ทำให้ไม่เกิดการซึมน้ำจึงไม่เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย ไม่เกิดคราบฝั่งแน่น อีกทั้งยังดูแลรักษาได้ง่าย เหมาะสำหรับการนำไปทำในส่วนของท็อปเคาน์เตอร์ หรือโต๊ะไอส์แลนด์ ข้อเสียอย่างเดียวเลยคือ มีราคาที่ค่อยสูงเมื่อเทียบกับหินชนิดอื่น

ลายที่แนะนำ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

-www.wazzadu.com

-www.hafelethailand.com

รูปภาพบางส่วนจาก

-Pinterest.com